วันที่ 18 กันยายน ปี ค.ศ. 1931 ทหารญี่ปุ่นระเบิดรางรถไฟสายหนานหม่าน (หนานจิง แมนจูเรีย) โดยใส่ความว่าเป็นฝีมือกองทัพจีน และใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการเปิดฉากสงครามบุกประเทศจีนครั้งใหม่

วันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1937 หนานจิงแตก ทหารญี่ปุ่นจี้ดาบสังหารไปที่ชาวเมืองผู้รักสันติจำนวนมาก ในจำนวนนี้ที่อนาถที่สุดเป็นการสังหารหมู่แบบรวมกลุ่ม ปฏิบัติการสังหารหมู่เหล่านี้ มีผู้ถูกสังหารจำนวนกว่าสองแสนคน

สตรีสาวจนถึงสตรีสูงวัยหกสิบเจ็ดสิบปีตกเป็นผู้ถูกทำร้ายจำนวนมาก ข่มขืน รุมโทรม ถือเป็นความบันเทิง และยังมีการตัดเต้านม แทงซี่โครง ตบฟันร่วง ร่างกายส่วนล่างบอบช้ำ สภาพต่างๆ อเนจอนาถยากจะทนทาน

ที่เรียกว่า “ผู้หญิงปลอบขวัญ” ในความเป็นจริงก็คือทาสกามของกองทัพญี่ปุ่น ทางการญี่ปุ่นได้เปลี่ยนแปลงวิธีการโดยจัดตั้งสถานบริการผู้หญิงปลอบขวัญ บังคับสตรีชาวจีนและชาวเกาหลีนับหมื่นให้เป็นเหยื่อการข่มขืน

วันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1947 ศาลได้พิพากษาตัดสินว่า
“พลเอกอิวาเนะ มัตสึอิ ในระหว่างสงครามได้ร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ท้ายทหารในการสังหารหมู่เชลยศึกและบุคคลที่มิใช่ผู้นำการสู้รบ อีกทั้งทำการข่มขืน ปล้นสะดม และทำลายทรัพย์สิน เห็นควรลงโทษประหารชีวิต”

ข้อมูลหนังสือ